Subscribe

RSS Feed (xml)

Powered By

Skin Design:
Free Blogger Template

Powered by Blogger


โรงเรียนเมืองพลับพลาพิทยาคม ยินดีต้อนรับทุกท่าน

ระหว่างปรับปรุง

ประชาสัมพันธ์

ระหว่างปรับปรุง

Saturday, March 10, 2012

ชาตะไคร้

ชาตะไคร้



ต้นเรื่อง

ตะไคร้ (Lemongrass) เป็นพืชล้มลุก ความสูงประมาณ 4-6 ฟุต ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลำต้นรวมกันเป็นกอ มีกลิ่นหอม ดอกออกเป็นช่อยาวมีดอกเล็กฝอยเป็นจำนวนมาก ตะไคร้เป็นพืชที่สามารถนำส่วนต้นหัวไปประกอบอาหาร และจัดเป็นพืชสมุนไพรด้วย

สารบัญ

1.ทำความรู้จักกับตะไคร้

2.ถิ่นกำเนิด

3.ลักษณะโดยทั่วไป

4.การปลูกและขยายพันธุ์

5.สรรพคุณ

6.วิธีทำน้ำตะไคร้ไว้ดื่ม

7.วิธีการทำชาตะไคร้ใบเตย


1.ทำความรู้จักกับตะไคร้

ตะไคร้ : (Takhrai), Lemongrass

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cymbopogon citratus Stapf.

วงศ์ : GRAMINEAE

ชื่ออื่นๆ : ภาคเหนือ เรียก จะไค (Cha-khai) จะไค้ (Cha-khai), ภาคใต้ เรียก ไคร (Khrai),ชวา เรียก ซีเร (Sere)


2.ถิ่นกำเนิด

ตะไคร้มีถิ่นกำเนิด ในประเทศอินโดนีเซีย ศรีลังกา พม่า อินเดีย ไทย และในทวีปอเมริกาใต้


3.ลักษณะโดยทั่วไป

โดยทั่วไปแบ่งตะไคร้ออกเป็น 6 ชนิด ได้แก่

• ตะไคร้กอ

• ตะไคร้ต้น

• ตะไคร้หางนาค

• ตะไคร้น้ำ

• ตะไคร้หางสิงห์

• ตะไคร้หอม

เป็นพืชตระกูลหญ้า ตะไคร้เป็นพืชที่เจริญเติบโตง่าย อาจมีทรงพุ่มสูงถึง 1 เมตร มีลำต้นที่แท้จริงประมาณ 4-7 เซนติเมตร ลำของต้นจะถูกห่อหุ้มไปด้วยกาบใบโดยรอบ ใบยาวแคบเส้นใบขนานกับก้านใบ ใบของตะไคร้อุดมไปด้วยน้ำมันหอมระเหย ที่นิยมนำมาปลูกเป็นพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกกันโดยทั่วไป


4.การปลูกและขยายพันธุ์

ปลูกได้การปักชำต้นเหง้า โดยตัดใบออกให้เหลือตอนโคนประมาณหนึ่งคืบ นำมาปักชำไว้สักหนึ่งสัปดาห์ก็จะมีรากงอกออกมา แล้วนำไปลงแปลงดินที่เตรียมไว้ หรืออาจใช้วธีเอาโคนปักลงไปที่ดินซึ่งเตรียมไว้เลย ให้ห่างประมาณหนึ่งศอก ถ้าปลูกในกระถางใช้วิธีปักโคนลงในกระถางๆละ 2-3 ต้นก็ได้ แล้วหมั่นรดน้ำให้ชุ่มเช้าเย็น ตั้งไว้ให้โดนแดดตลอดวันจะทำให้โตได้เร็ว

ตะไคร้ชอบดินร่วนซุย เป็นพืชที่ชอบน้ำ ชอบแดด ดูแลรดน้ำเสมอและโดนแดดได้ตลอดวัน เจริญได้ในดินแทบทุกชนิด เวลาจะใช้ก็ให้ตัดที่โคนสุดส่วนรากเลย แล้วถอนออกมาทั้งต้นตามต้องการ ต้องคอยตรวจดูเมื่อตะไคร้มีกอเจริญเติบโตได้เต็มที่แล้ว ต้องถอนทิ้งหรือแยกออกไปปลูกใหม่บ้างหรือเอาไปใช้บ้าง จำนำมาหั่นเป็นฝอยๆ ตากแดดให้แห้งสนิทแล้วแพ็คเก็บไว้ใช้ได้นานๆ เพื่อให้ต้นอ่อนโตขึ้นมาใหม่ ถ้าไม่แยกออกไปต้นจะเล็กและลีบลงเรื่อยๆ และบางที่ก็แคระแกร็น ต้นและกอก็จะโทรม


5.สรรพคุณ

ใช้ส่วนของเหง้าและลำต้นแก่ ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารที่สำคัญหลายชนิดเช่น ต้มยำ และอาหารไทยหลายชนิด ให้กลิ่นหอม มีสรรพคุณทางยาเช่น บำรุงธาตุ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ ขับลมในลำไส้ทำให้เจริญอาหาร แก้กลิ่นคาวหรือดับกลิ่นคาวของปลา และเนื้อสัตว์ได้ดีมาก บำรุงสมอง ช่วยให้สมาธิดี ต้มกับน้ำใช้ดื่มแก้อาเจียร ใช้ต้นสดโขลกคั้นเอาน้ำดื่มแก้อาการเมาในกรณีผู้ที่เมามากๆ ช่วยให้สร่างเร็ว น้ำมันตะไคร้หอมใช้ทากันยุงได้ ถ้าปลูกใกล้ผักอื่นๆจะช่วยกันแมลงได้


6.วิธีทำน้ำตะไคร้ไว้ดื่ม

นำต้นตะไคร้มาทุบแล้วใส่ลงไปต้มในน้ำที่กำลังเดือดพล่าน รอจนน้ำเปลี่ยนสีให้ยกลง เอากากออกแล้วเอาน้ำตาลใส่ ชิมดูรสชาติหวานปานกลาง พอเย็นลงเก็บใส่ตู้เย็น แก้กระหาย ใช้ดื่มก่อนดื่มเหล้าจะทำให้ดื่มเหล้าได้น้อยลง และทำให้เจริญอาหาร


7.วิธีการทำชาตะไคร้ใบเตย

วัตถุเครื่องปรุง

1.ตะไคร้ 4 ต้น

2.ใบเตย 4 ใบ

3.น้ำ 1 ลิตร

4.น้ำตาลทรายใส่ตามชอบหวานน้อยหวานมาก

วิธีทำ

1.ล้างตะไคร้ให้สะอาด ทุบพอแตก หั่นเป็นท่อนๆ ใบเตยล้างให้สะอาด ขยำพอช้ำ หั่น คั่ว

2.ต้มน้ำให้เดือดก่อน นำตะไคร้ และใบเตย ใส่ลงไป ปิดฝาต้มต่อประมาณ 5 นาทีแล้วยกลง

3.เติมน้ำตาลให้หวานตามใจชอบ

4.ทิ้งไว้ให้เย็น เอาน้ำแข็งใส่แก้วเทน้ำใส่นำไปดื่ม หรือดื่มตอนอุ่น ๆ เป็นน้ำชา

สรรพคุณ

ใช้แก้ท้องอืดเฟ้อ แน่นจุกเสียด ทั้งยังขับปัสสาวะสำหรับผู้ที่มีอาการขัดเบา แม้ไม่ถึงกับมีอาการบวมแขนขาก็ตาม น้ำมันตะไคร้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย จึงช่วยให้ทางเดินอาหารและทางเดินหายใจส่วนบนสะอาด ป้องกันหวัดได้


ผอ.เกชา เหมือนวาจา เรียบเรียงและแต่งเติม

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

วิกิพีเดีย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว) http://www.panyathai.or.th/

Read More......